สภาวะสมองล้าเกิดจากอะไร

สภาวะสมองล้าเกิดจากอะไร
ภาวะสมองล้า เป็นภาวะที่วัยรุ่นและวัยทำงานในยุคสมัยนี้ไม่ควรมองข้าม สำหรับโรคนี้แล้วไม่จำเป็นที่จัต้องมีอายุมากๆ แล้วเกิดความเสื่อมของร่างกายก็สามารถเป็นได้ หากคุณมีภาวะเครียดโดยที่ไม่รู้ตัว ประสาทหลอน สมองของคุณนั้นจะถูกใช้งานอย่างหนัก เป็นระยะเวลายาวนาน การที่จะเร่งทำงานให้เสร็จ การพักผ่อนน้อย หรือการทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลาที่นานเกินไป ส่งผลให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งเป็นสารเคมีที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อสัญญานไฟฟ้าระหว่างเซลล์ของระบบประสาทในสมองของเรานั้นเกิดความเสียสมดุล ประสิทธิภาพในการทำงานของสมองของเราก็จะแย่ลงตามไปด้วย หากเกิดอาการบ่อยครั้งก็มีโอกาสที่จะเกิดโรคต่างๆตามมา เช่น สมองตีบ โรคกระเพาะ โรคอ้วน โรคเบาหวาน ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ ฯลฯ
สาเหตุหลักๆในการเกิดภาวะสมองล้า
- คลื่นแม่เหล็ก ที่มาจากการที่เราใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ แท็บแล็ตมากเกินไป ทำให้รบกวนการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง
- ความเครียด ทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดในสมองนั้นน้อยลง เกิดอาการมึนงง ความจำแย่ลง
- นอนดึก นอนไม่เพียงพอ ขาดการออกกำลังกาย
- ขาดสารอาหาร จำพวก กรดอะมิโน วิตามิน เกลือแร่ สารต่างอนุมูลอิสระทั้งหลาย
- สารพิษที่อยู่ในชีวิตประจำวัน มลภาวะต่างๆฝุ่นควันรอบตัว สารเคมี โลหะหนัก ยาฆ่าแมลงที่อาจปนเปื้อนมาในอากาศ น้ำ หรืออาหาร
อาการต่างๆที่อาจจะเตือนว่าคุณอยู่ในภาวะสมองล้า
- นอนไม่หลับ
- ปวดศรีษะเริ้อรัง
- สายตาอ่อนเพลียหรือล้าง่าย
- จัดการแก้ไขปัญหาต่างๆได้ไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน
- อารมณ์แปรปรวน
- หงุดหงิดง่าย
- ขี้หลงขี้ลืม
- ความจำในระยะสั้นแย่ลง
- สมาธิในการทำงานหรือการจดจ่ออะไรซักอย่างแย่ลง
- ความคิดในการสร้างสรรค์หายไป
- ไม่สดชื่นไม่ตื่นตัว
การดูแลสมองไม่ให้เกิดอาการล้า
- ควบคุมการใช้เทคโนโลยีต่างๆให้เหมาะสมไม่นานจนเกินไปหรือตลอดทั้งวัน
- คิดบวก มีอารมณ์ขันทำอะไรที่คลายเครียด
- ทานอาหารที่ช่วยบำรุงสมองและมีประโยชน์
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน นอนหลับในช่วง 4ทุ่ม – เที่ยงคืนจะดีมาก
- ออกกำลังกายเป็นประจำ ร่างกายและสมองจะได้แข็งแรง
- เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ รวมถึงการดื่มกาแฟในช่วงเย็นเพราะจะรบกวนการนอน
- เติมพลังชีวิต พักผ่อนหย่อนใจ ผ่อนคลายด้วยการท่องเที่ยว หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองไม่เครียดและชื่นชอบ
การทานอาหารที่มีประโยชน์นั้นมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง
- ธีอะนีน เพิ่มสารซีโรโทนิน โดพามีน และกาบา ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ลดความเครียดได้ มีสมาธิมากขึ้น ไม่หงุดหงิดง่าย ช่วยให้การจะดลำดับความคิดของเรานั้นเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
- วิตามินอี เป็นสารที่ช่วยต้านการเกิดปฏิกริยาออกซิเดชั่น ที่มีความสามารถในการช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ หรือช่วยลดความจำเสื่อมในอวัยวะต่างๆ ที่มีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยง ในการเกิดโรคและภาวะต่างๆ
- อิโนซิทอล สารชนิดนี้อยู่ในกลุ่มของวิตามินบี มีบทบาทสำคัญในระบบประสาทและระบบการกำจัดไขมันในร่างกาย อุดมไปด้วย Colostrums แบบเดียวกับสารอาหารที่อยู่ในน้ำนมแม่ในระยะ 4-5 วันแรก หลายคนจะนึกออกหากนึงถึงนมแม่ในช่วงแรกคลอดที่มีสีเหลือง มีประโยชน์ในการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์ โดยเฉพาะเยื่อที่หุ้มระบบประสาท เซลล์รากผมที่มีหน้าที่สร้างผม และเซลล์ไขกระดูกให้กระดูกนั้นมีความแข็งแรงสมบูรณ์
- ยังมีสารอาหารอีกมากมาย เช่น น้ำมันปลา สารสกัดจากแปะก๊วย โคลีน สารสกัดจมูกข้าว ฟอสฟาติดิลซีรีน สารสกัดจากโสม ซอยเลซิทิน แอลคาร์นิทีน แอลทาร์เทรต วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี อิโนซิทอล เป็นต้น
การบำรุงสมองให้แข็งแรงอยู่เสมอนั้นคือสิ่งที่สำคัญ การใช้สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ ในสมัยนี้นั้นค่อนข้างที่จะสูง ๆไม่ว่าในวัยไหนๆ ความกดดันจาการเรียน การทำงาน ก็ทำให้เกิดความเครียดได้ อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ผ่อนคลายตัวเองปลดล็อคสภาวะความเครียดจากสังคม หรือการกดดันตัวเองในกิจกรรมต่างๆลงบ้าง